วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

ทศนิยม

                                                ทศนิยม

ทศนิยมนั้นจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราตลอด ไม่ว่าจะเป็นการบอกค่าของเงินที่เราใช้การบอกเวลา บอกหน่วยความยาว ฯลฯ
         
ทศนิยม หมายถึง ค่าของจำนวนเต็มที่แบ่งออกเป็นสิบส่วน ร้อยส่วน พันส่วน .... เท่า ๆ กัน ซึ่งเขียนได้ในรูปของเศษส่วน

                                                  การอ่านทศนิยม

        เลขที่อยู่หน้าทศนิยมเป็นเลขจำนวนเต็ม อ่านเช่นเดียวกับตัวเลขจำนวนเต็มทั่วไป ส่วนตัวเลขหลังจุดทศนิยมเป็นเลขเศษของเศษส่วนซึ่งมีค่าไม่ถึงหนึ่ง อ่านตามลำดับตัวเลขไป เช่น 635.1489 อ่านว่า หกร้อยสามสิบห้าจุดหนึ่งสี่แปดเก้าถ้าเลขจำนวนนั้นไม่มีจำนวนเต็ม จะเขียน 0 (ศูนย์) ไว้ตำแหน่งหลักหน่วยหน้าจุดได้ เช่น .25เขียนเป็น 0.25 ก็ได้

                                           การเรียกตำแหน่งทศนิยม

        ถ้ามีตัวเลขหลังจุดทศนิยมกี่ตัว ก็เรียกเท่านั้นตำแหน่ง

ล้าน
แสน
หมื่น
พัน
ร้อย
สิบ
หน่วย
จุด
หลักส่วนสิบ
หลักส่วนพัน
1,000,000
100,000
10,000
1,000
100
10
1
.
0.1
0.001

         หลักตัวเลขหน้าจุด หลักตัวเลขหลังจุด

                                              การกระจายทศนิยม


จำนวน 327.35 จะเขียนให้อยู่ในรูปกระจายได้ดังนี้
3 อยู่ในหลักร้อย มีค่า 300


2 อยู่ในหลักสิบ มีค่า 20

7 อยู่ในหลักหน่วย มีค่า 7

3 อยู่หลังจุดเป็นตัวแรกเรียกว่าหลักส่วนสิบ ซึ่งมีค่า หรือ 0.3

5 อยู่หลังจุดเป็นตัวที่สองเรียกว่าหลักส่วนร้อย ซึ่งมีค่า หรือ 0.05

ดังนั้น 327.35 อ่านว่า สามร้อยยี่สิบเจ็ดจุดสามห้าหรือสามารถเขียนในรูปกระจายการบวกได้คือ 327.35 = 300 + 20 + 7 + 0.3 + 0.05

ตัวอย่าง

จำนวน
ล้าน
แสน
หมื่น
พัน
ร้อย
สิบ
หน่วย
จุด
ส่วนสิบ
ส่วนร้อย
ส่วนพัน
1) 1,573,940.98
1
5
7
3
9
4
0
.
9
8
.
2) 17,439.08
.
.
1
7
4
3
9
.
0
8
.
3) 757.29
.
.
.
.
7
5
7
.
2
9
.
4) 0.45
.
.
.
.
.
.
0
.
4
5
.


ทศนิยม
1 ตำแหน่งมี 10 เป็นตัวหาร เทียบกับเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นสิบ
ทศนิยม 2 ตำแหน่งมี 100 เป็นตัวหาร เทียบกับเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นร้อย
เลขทศนิยมทำให้เป็นเศษส่วนได้โดยการหารด้วย 10 หรือ 100

                                               การปัดเศษทศนิยม มีหลักดังนี้
5.1 ถ้าตัวเลขทศนิยมที่พิจารณา มีค่าตั้งแต่ 6 ขึ้นไป จะปัดทบเข้ากับตัวเลขหน้า เช่น 56.38 = 56.4
5.2 ถ้าตัวเลขทศนิยมที่พิจารณา มีค่าตั้งแต่ 4 ลงมา จะปัดตัวเลขนั้นทิ้งไป เช่น 56.32 = 56.3
5.3 ถ้าตัวเลขทศนิยมที่พิจารณา มีค่าเท่ากับ 5 มีวิธีปัดทศนิยม 2 วิธีคือ
       1.) ถ้าทศนิยมหน้าเลข 5 เป็นเลขคู่ ก็ตัดตัวเลข 5 ทิ้ง เช่น 4.65= 4.6
       2. ) ถ้าทศนิยมหน้าเลข 5 เป็นเลขคี่ ให้ปัดทศนิยมขึ้น เช่น 0.75 = 0.8
                                      
จำนวนตรงข้ามของทศนิยม


            ทศนิยมที่เป็นบวกและทศนิยมที่เป็นลบที่มค่าสัมบูรณ์เท่ากัน จะอยู่คนละข้างของ 0 และอยู่ห่างจาก 0 เป็นระยะเท่ากัน เช่น -1.5 และ 1.5

  • -1.5 เป็นจำนวนตรงข้ามของ 1.5 และ 1.5 เป็นจำนวนตรงข้ามของ -1.5 ,
  • -1.75 เป็นจำนวนตรงข้ามของ 1.75 และ 1.75 เป็นจำนวนตรงข้ามของ -1.75
  • ถ้า a เป็นทศนิยมใด ๆ จำนวนตรงข้ามของ a มีเพียงจำนวนเดียวเขียนแทนด้วย -a และ a + ( - a ) = ( - a ) + a = 0
    จำนวนตรงข้ามของ -1.75 เขียนแทนด้วย - ( - 1.75 )
    จำนวนตรงข้ามของ -1.75 คือ 1.75 เนื่องจากจำนวนตรงข้ามของ -1.75 มีเพียงจำนวนเดียว ดังนั้น -( -1.75 ) = 1.7
    ถ้า a เป็นทศนิยมใด ๆ จำนวนตรงข้ามของ - a คือ a และเขียนแทนด้วย -( -a )
    ในการหาผลลบของทศนิยมใด ๆ ใช้ข้อตกลงเดียวกันที่ใช้ในการหาผลลบของจำนวนเต็ม คือ

ตัวตั้ง - ตัวลบ = ตัวตั้ง + จำนวนตรงข้ามของตัวลบ
เมื่อ a และ b แทนทศนิยมใด ๆ a - b = a+จำนวนตรงข้ามของ b หรือ a - b = a +( - b ) เช่น 5.01 - 2.32 = 5.01 + (-2.32) , ( -4.17 ) -1.32 = ( -4.17 ) + ( -1.32 )


การบวกเลขทศนิยม

                  คือ ตั้งให้จุดทศนิยมตรงกัน แล้วทำการบวกตามการบวกเลขธรรมดาทั่ว ๆ ไป เช่น

35.05 , 27.09
35.05
+
27.09
62.14

การลบทศนิยม

  • จงหาผลลบ 63.02 - ( -86.38 )
    วิธีทำ 63.02 - ( -86.38 ) = 63.02 + ( 86.38 )
    63.02
    +
    86.38
    149.40 ดังนั้น 63.02 - ( -86.38 ) = 149.40

  • จงหาผลลบ ( - 125.17 ) - ( - 72.9 )
    วิธีทำ ( -125.17 ) - (-72.9 ) = ( -125.17 ) + 72.90
    -125.17
    +
    72.90
    -52.27 ดังนั้น ( -125.17 ) - ( -72.9 ) = - 52.27

 ารหาผลคูณโดยใช้การบวกทศนิยมซ้ำ ๆ กัน

            การคูณทศนิยมด้วยจำนวนนับ อาจใช้วิธีเปลี่ยนการคูณให้อยู่ในรูปของการบวกทศนิยมนั้นหลาย ๆ ครั้ง โดยจำนวนของทศนิยมที่นำมาบวกกันเท่ากับจำนวนนับนั้นแล้วใช้หลักการบวกทศนิยม จะสังเกตได้ว่า การคูณนั้นก็เหมือนกับการนำเอาทศนิยมจำนวน ๆ หนึ่ง มาบวกกันให้เท่ากับจำนวนที่เราต้องการ เช่น
เราต้องการ หา 4 เท่าของ 0.4

0.4 * 4 = 0.4 + 0.4 + 0.4 + 0.4  = 1.6

             จะเห็นว่าได้ผลลัพธ์เท่ากัน ดังนั้นก็สามารถบอกได้ว่า การหาผลคูณโดยใช้วิธีการนำทศนิยมมาบวกซ้ำ ๆ กัน ให้เท่ากับจำนวนที่เอามาคูณได้ และอาจใช้วิธีตั้งหลักเลขและจุดทศนิยมให้ตรงกัน แล้วบวกกันโดยใช้หลักการเช่นเดียวกับการบวกจำนวนนับ

                                              ทศนิยม และเศษส่วน
6.1 การเขียนทศนิยมให้เป็นเศษส่วน
ตัวอย่าง จงเขียน 2.5 ให้เป็นเศษส่วน
วิธีทำ 2.5 = 2 กับ 5 ใน 10

6.2 การเขียนเศษส่วนให้เป็นทศนิยม
1.) เศษส่วนที่มีส่วนเป็น 10 หรือ 100 หรือ 10 ยกกำลัง สามารถเปลี่ยนเป็นทศนิยมได้เลย เช่น 75/100 = 0.75
2.) เศษส่วนที่ไม่มีส่วนเป็น 10 หรือ 100 หรือ 10 ยกกำลัง ให้เปลี่ยนเป็นเศษส่วนที่มีส่วนเป็น 10 หรือ 100 หรือ 10 ยกกำลังก่อน เช่น

                                    เรียนรู้เพิ่มเติม การเขียนเศษส่วนเป็นทศนิยม





http://www.myfirstbrain.com/thaidata/image.asp?ID=1931601




วันอังคาร ที่ 10 เดือนกันยายน พ.. 2556






17 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับกําลังทํารายงานอยู่พอดีเลย

    ตอบลบ
  2. ทศนิยม5ตำแหน่งของเลข27ผลลัพเท่าใหร่

    ตอบลบ
  3. 19ส่วน100กับ19ส่วน1,000อันไหนมากกว่ากัน

    ตอบลบ
  4. If you're trying to lose pounds then you certainly need to start using this brand new personalized keto plan.

    To create this keto diet service, licensed nutritionists, fitness trainers, and cooks joined together to develop keto meal plans that are effective, suitable, money-efficient, and delightful.

    Since their first launch in early 2019, hundreds of people have already transformed their body and well-being with the benefits a professional keto plan can offer.

    Speaking of benefits: clicking this link, you'll discover 8 scientifically-proven ones provided by the keto plan.

    ตอบลบ
  5. 3ใน10ได้เท่าไหร่ครับ

    ตอบลบ
  6. 8ร้อยกับ7สิบกับ96หน่วยกับ1ร้อยส่วนกับ3พันส่วน ช่วยเขียนเป็นรูปทศนิยมให้ดูหน่อยค่ะ จะสอนการบ้านลูก ป.4

    ตอบลบ
  7. ถ้าโสดก็ปี้กันสิจ๊ะน้องสาว

    ตอบลบ
  8. ขอท่าเลียนะจ๊ะลิ้นพี่มันยาววว

    ตอบลบ