วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

สมการ


                                     สมการ   

          คำตอบของสมการ ได้แก่ จำนวนที่แทนค่าตัวแปรในสมการแล้ว ทำให้สมการนั้นเป็นจริงสมการที่มีตัวแปรอยู่ด้วย เราไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นจริงหรือเท็จ จะจริงหรือเท็จเราจะรู้ได้เมื่อแทนค่าตัวแปรในสมการนั้นแล้ว
            ถ้าโจทย์ให้ค่าของตัวแปรมาด้วย เอาค่าของตัวแปรแทนค่าลงในสมการ จะทำให้เกิดผลที่เป็นไปได้อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
- สมการเป็นเท็จ
- สมการเป็นจริง


                   กรณีที่ 1 สมการเป็นเท็จ
          เมื่อแทนค่าตัวแปรในสมการแล้วทำให้ประโยคเป็นเท็จ
           เช่น สมการ y + 6 = 15 แทนค่า y = 10 แล้ว
                          10 + 6 = 15 ดังนั้น สมการเป็นเท็จ


                    กรณีที่ 2 สมการเป็นจริง

                                    เมื่อแทนค่าตัวแปรในสมการแล้วทำให้ประโยคเป็นจริง
                                      เช่น สมการ y + 6 = 15 แทนค่า y = 9 แล้ว
                                                       9 + 6 = 15 ดังนั้น สมการเป็นจริง

      
                                             คุณสมบัติของการเท่ากัน
                                        การเท่ากัน หมายถึง ค่าหรือปริมาณของจำนวนที่เท่ากัน เช่น
                                                       5 + 1 = 6 เป็นจริง (ได้ 6 = 6)
                                              (2 + 6) + 7 = 15 เป็นจริง (ได้ 15 = 15)
  คุณสมบัติของการเท่ากัน แยกเป็นคุณสมบัติความเท่ากันในเรื่องการบวก การลบ การคูณ และการหาร
                             
                                   คุณสมบัติการบวก
 เมื่อมีจำนวนสองจำนวนเท่ากัน นำจำนวนหนึ่งมาบวกแต่ละจำนวนที่เท่ากัน ผลบวกที่ได้จะเท่ากัน
                                                                 เช่น a = b ดังนั้น a + 3 = b + 3
                                                                     10 = 6 + 4 ดังนั้น 10 + 5 = ( 6 + 4 ) + 5
                                                             จะได้ 15 = 15
 
   
                                                     คุณสมบัติการลบ
  เมื่อมีจำนวนสองจำนวนเท่ากัน นำจำนวนหนึ่งมาลบแต่ละจำนวนที่เท่ากัน ผลลบที่ได้จะเท่ากัน
                                                         เช่น a = b ดังนั้น a - 4 = b - 4
                                                                9 = 7 + 2 ดังนั้น 9 - 4 = ( 7 + 2 ) - 4
                                                        จะได้ 5 = 5
                                               

                                    คุณสมบัติการคูณ
  เมื่อมีจำนวนสองจำนวนเท่ากัน นำจำนวนหนึ่งมาคูณแต่ละจำนวนที่เท่ากัน ผลคูณที่ได้จะเท่ากัน
                                                           เช่น a = b ดังนั้น a x 8 = b x 8
                                                               10 = 6 + 4 ดังนั้น 10 x 5 = ( 6 + 4 ) x 5
                                                      จะได้ 50 = 50
                                          
                                       
                                      คุณสมบัติการหาร
 เมื่อมีจำนวนสองจำนวนเท่ากัน นำจำนวนหนึ่งมาหารแต่ละจำนวนที่เท่ากัน ผลหารที่ได้จะเท่ากับ
                                                             เช่น a = b ดังนั้น
                                                              16 = 10+6 ดังนั้น
                                                                8 = 8
 
   
                                            การแก้สมการ
        การแก้สมการ คือ การหาคำตอบของสมการ หรือการหาค่าของตัวแปรซึ่งทำให้สมการนั้นเป็นจริง
คำสั่งที่ใช้ในการแก้สมการ นิยมใช้คำสั่งดังนี้
          จงแก้สมการ 5x + 2 = 17
          จงหาคำตอบของสมการ 5x + 2 = 17
          จงหาค่าของ x ที่ทำให้สมการ 5x + 2 = 17 เป็นจริง
           จากสมการ 5x + 2 = 17 จงหาค่าของตัวแปร
การแก้สมการทำได้ 2 วิธีดังนี้
- การแทนค่าตัวแปร
- การใช้คุณสมบัติของการเท่ากัน

                                               
การแทนค่าตัวแปร


            โดยการทดลองแทนค่าของตัวแปรในสมการ ถ้านำจำนวนใดมาแทนค่าของตัวแปรในสมการนั้น แล้วทำให้สมการนั้นเป็นจริง แสดงว่าจำนวนนั้นเป็นคำตอบของสมการ และถ้านำจำนวนใดมาแทนค่าของตัวแปรในสมการนั้น แล้วทำให้สมการเป็นเท็จ แสดงว่าจำนวนนั้นไม่เป็นคำตอบของสมการ ดังตัวอย่าง
         สมการ y + 6 = 21 แทน y ด้วย 15
          จะได้ 15 + 6 = 21 สมการเป็นจริง
 ดังนั้น คำตอบของสมการ คือ 15
          สมการ 5x + 2 = 17 แทน x ด้วย 3
          จะได้ ( 5 x 3 ) + 2 = 17
                          15 + 2 = 17 สมการเป็นจริง
ดังนั้น คำตอบของสมการ คือ 3
          ถ้าสมการนั้นๆ สลับซับซ้อน เราจึงใช้คุณสมบัติของการเท่ากันในการหาคำตอบ

                                     
                                        การใช้คุณสมบัติของการเท่ากัน
            โดยการนำคุณสมบัติการเท่ากันในเรื่อง การบวก การลบ การคูณ การหาร มาใช้ในการแก้สมการ  ดูวิธีการในตัวอย่างต่อไปนี้
               จงแก้สมการ x - 12 = 18
วิธีทำ x - 12 = 18
นำ 12 มาบวกทั้งสองข้างของสมการ
x - 12 + 12 = 18 + 12 (คุณสมบัติการบวก)
               x = 30
                   ตรวจสอบคำตอบ โดยการแทนค่า x ด้วย 30
ในสมการ x - 12 = 18
     จะได้ 30 - 12 = 18 สมการเป็นจริง
   ดังนั้น คำตอบของสมการ คือ 30

                  จงแก้สมการ 7x + 8 = 36
วิธีทำ 7x + 8 = 36
นำ 8 มาลบทั้งสองข้างของสมการ
7x + 8 - 8 = 36 - 8 (คุณสมบัติการลบ)
            7x = 28
นำ 7 มาหารทั้งสองข้างของสมการ
              x = 4
ตรวจสอบคำตอบ โดยการแทนค่า x ด้วย 4
ในสมการ 7x + 8 = 36
จะได้ (7 x 4) + 8 = 36
                28 + 8 = 36 สมการเป็นจริง
  ดังนั้น คำตอบของสมการ คือ 4

เรียนรู้เพิ่มเติม การแก้สมการและอสมการ


ที่มา







 วันอังคาร ที่ 10 เดือนกันยายน พ.. 2556

1 ความคิดเห็น:

  1. According to Stanford Medical, It is really the one and ONLY reason women in this country live 10 years longer and weigh 42 lbs lighter than us.

    (And by the way, it is not related to genetics or some hard exercise and EVERYTHING to related to "how" they eat.)

    P.S, I said "HOW", not "WHAT"...

    CLICK on this link to reveal if this little test can help you release your real weight loss possibilities

    ตอบลบ